การบริหารงานตามแนวคิดในยุคปัจจุบัน ความสำเร็จสูงสุดจะเกิดขึ้นได้ในหน่วยงานขึ้นอยู่กับวิธีการจัดการทรัพยากรมนุษย์ได้อย่างเหมาะสม มีการบริหารงานตามแนวความคิดของกลุ่มมนุษยสัมพันธ์เป็นพื้นฐาน หน่วยงานหลายหน่วยที่ดูเหมือนว่าประสบความสำเร็จเมื่อมองจากภายนอก แต่เมื่อได้เข้าไปสัมผัสอย่างใกล้ชิด จะเห็นได้ว่าแท้จริงยังจะสามารถพัฒนา และเพิ่มประสิทธิภาพได้อีกมากกว่านี้ถ้าได้นักบริหารที่ดีมีคุณภาพ และความสำเร็จที่มองเห็นได้ก็เป็นเพียงชั่วคราว เพราะได้ก่อให้เกิดปัญหาสะสมไว้รอวันที่จะปะทุออกมาในระยะยาว
ปัญหาความมีประสิทธิภาพการบริหารงานในระบบราชการยังขาดมาตรฐานที่ใช้ในการชี้วัด ทำให้หลายหน่วยงานสูญเสียโอกาสและเวลา เพราะนักบริหารที่รับผิดชอบมิได้มุ่งมั่น ปฏิบัติงานตามหน้าที่ไปเรื่อยๆ และปลอดภัยไว้ก่อน เปรียบเสมือนกับการเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพ ซึ่งแตกต่างจากนักบริหารในระบบธุรกิจที่เล่นกีฬาเพื่อการแข่งขัน มุ่งมั่นที่จะได้ชัยชนะ และสนุกกับเกมส์อยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้เองที่นักบริหารในระบบธุรกิจจะต้องเป็นผู้มีประสิทธิผลสูง และเข้าใจหัวใจสำคัญของความสำเร็จว่าต้องเริ่มต้นที่คน ซึ่งเป็นกรอบความคิดที่ค่อนข้างจะแตกต่างกัน เพราะในระบบราชการยังยึดติดกับการใช้อำนาจเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารงาน
จากแนวความคิดที่มีตัวอย่างให้เห็นมากมายในระบบราชการ ทำให้นักบริหารประเมินค่าตัวเองผิด มองข้ามการพัฒนาปรับปรุงตนเอง ปฏิบัติตามกรอบความคิดและอุปนิสัยเดิมๆ ที่มีอยู่ เพราะมีความเชื่อว่าเท่านี้ก็เพียงพอในการบริหารงานแล้ว แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงของการบริหารงาน มีปัจจัยของความสำเร็จหลายประการ และสิ่งที่ถูกมองข้ามอยู่เสมอก็คือ สิ่งที่อยู่ภายในของนักบริหารซึ่งดูเสมือนว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ยิ่งใหญ่มหาศาล เพราะส่งผลทางด้านจิตใจกับเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานมาก ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจพอสรุปได้ดังนี้
1. ความเป็นผู้นำ นักบริหารกับความเป็นผู้นำต้องมาเป็นอันดับแรก ซึ่งจะต้องกล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจ และกล้าที่จะรับผิดชอบ พร้อมที่จะนำหน่วยงานก้าวไปข้างหน้า แสวงหาความท้าทาย เมื่อมีปัญหาหรือเกิดสถานการณ์ยุ่งยาก นักบริหารจะต้องเข้าไปร่วมแก้ไขปัญหากับเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด มิใช่ทำตัวอยู่เหนือปัญหาและเอาตัวรอด
2. ความรู้ความสามารถและปฏิภาณ เป็นตัวชี้วัดศักยภาพของนักบริหารได้ค่อนข้างชัดเจน เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่ขอคำปรึกษา ขอคำแนะนำ และแนวทางการแก้ไขปัญหา หรือไม่เมื่อผู้บริหารนั่งเป็นประธานในที่ประชุม เหล่านี้จะแสดงให้เห็นถึงความรู้ความสามารถของผู้บริหาร การยอมรับหรือไม่ยอมรับก็จะเกิดขึ้นติดตามมา มีหลายๆ คนไขว่คว้าเพื่อก้าวขึ้นไปเป็นนักบริหาร โดยลืมคิดไปว่าตนเองมีความรู้ความสามารถเพียงพอที่จะทำงานได้หรือไม่
3. วิธีการพูด นักบริหารที่เก่งและเป็นคนดีหลายคนไม่ประสบผลสำเร็จในการบริหารงาน เพราะเมื่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ ก่อให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดี คำพูดที่พูดออกไปขาดความน่าเชื่อถือ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการขาดจิตวิทยาการพูด จากสุภาษิตที่ว่าพูดดีเป็นศรีแก่ปากคงจะใช้ได้ตลอดไป โดยเฉพาะกับนักบริหารที่คำพูดทุกคำจะได้รับความสนใจจากเจ้าหน้าที่ ได้รับการจดจำเพื่อนำไปปฏิบัติ ดังนั้น ผู้บริหารต้องระมัดระวังไม่พูดด้วยอารมณ์ ซึ่งคำพูดที่ก่อให้เกิดปัญหาและมีให้เห็นได้บ่อยครั้ง ได้แก่ลักษณะการพูดต่อไปนี้ พูดแบบคนบ้าอำนาจ พูดด้วยคำหยาบ พูดแบบประจานและดูถูกทับถม พูดให้ร้าย พูดอวดเก่ง อวดมี และอวดรวย พูดแล้วตนเองไม่ปฏิบัติให้เป็นตัวอย่าง เหล่านี้มีแต่สร้างความไม่สบายใจให้แก่เจ้าหน้าที่ทั้งนั้น
4. ความจริงใจ นับได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะนำไปสู่แรงจูงใจให้เจ้าหน้าที่เกิดความทุ่มเทร่วมแรงร่วมใจกันอย่างเต็มที่ เพราะเมื่อทุกคนมองออกถึงความจริงใจของผู้บริหารก็จะเกิดความรักความศรัทธา เพราะฉะนั้น การทำงานอยู่ร่วมกันถ้าเพื่อเพียงแต่ทำไปโดยหน้าที่หรือเพื่อผลประโยชน์เท่านั้น ความจริงใจก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ดังนั้น การที่คาดหวังให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ย่อมเป็นไปได้ยาก อีกทั้ง ถ้าขาดความจริงใจซึ่งกันและกันจะเป็นจุดเปราะบาง ที่จะก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในหน่วยงานตามมาได้ง่าย
5. ความมีเสน่ห์ จากคำพูดที่ว่าการเริ่มต้นดีก็ได้เปรียบไปแล้วครึ่งหนึ่งนั้น เปรียบเสมือนกับผู้บริหารที่มีบุคลิกภาพดี หน้าตาดี พูดจาไพเราะ แต่งกายสะอาดเรียบร้อย มีมารยาทดี และมีมนุษยสัมพันธ์ดี เหล่านี้ก็ชนะใจเจ้าหน้าที่ไปบ้างแล้ว ดังเช่นกับคนที่มีภรรยาสวยก็มีความภาคภูมิใจและอยากจะโชว์ ฉันใดก็ฉันนั้นกับผู้บริหารของหน่วยงานเช่นกัน
แนวความคิดเกี่ยวกับการบริหารงานเป็นศาสตร์ที่ไม่รู้จบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความเป็นมนุษย์ ซึ่งได้ถูกบรรจุสิ่งต่างๆ ไว้มากมายภายในตัว ดังที่พูดกันว่า สิ่งที่อยู่ข้างหลังเรา และสิ่งที่อยู่ข้างหน้าเราไม่ใช่เรื่องสำคัญนัก เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่อยู่ภายในตัวเรา ดังนั้น นักบริหารควรย้อนกลับมามองตัวเอง และยอมรับความจริง มุ่งมั่นที่จะยกระดับให้เราเป็นนักบริหารมืออาชีพทันยุคปัจจุบัน
แหล่งที่มา :: http://skn-rsc.ricethailand.go.th/success.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น